เรื่องนี้ เป็นเรื่องเกี่ยวกับการทำเสน่ห์หรือเสน่ห์ยาแฝด (ตัวละครเป็นชื่อสมมุตินะครับ) เรื่องเริ่มโดยคุณเนตรมีพี่สาว ที่ชื่อว่าพี่ฟ้า และคุณเนตรได้สังเกตุเห็นว่าตั้งแต่ตนเกิดมา ไม่เคยเห็นพี่ฟ้ามีแฟนเลยสักคน ไม่มีใครที่สนใจพี่ฟ้าเลย เพราะทางด้านของพี่ฟ้าเองพี่ฟ้าจัดว่าหน้าตาค่อนข้างขี้เหร่
โดยครอบครัวของคุณเนตรจะมีด้วยกัน 3 คน คือคุณแม่ คุณเนตรและพี่ฟ้า สองพี่น้องเติบโตมาด้วยกัน จนกระทั่งเรียนจบ ทั้งสองก็แยกย้ายกันไปทำงาน โดยคุณเนตรยังอาศัยอยู่กับคุณแม่ที่บ้าน ส่วนพี่ฟ้าได้ไปทำงานอยู่ที่อำเภอศรีราชา นานๆทีจะเดินทางกลับมาที่บ้านสักครั้ง แต่ก็ยังมีโทรมาคุยกันอยู่บ้างนิดๆหน่อยๆ
จนอยู่มาวันหหนึ่ง คุณแม่ได้มาบอกกับคุณเนตรว่า
“เนตรรู้ไหมว่าพี่ฟ้าท้อง”
คุณเนตรก็ถึงกับงงว่าพี่ฟ้าไปท้องกับใครยังไง เพราะตั้งแต่อยู่ด้วยกันมา ก็ยังไม่เคยเห็นพี่ฟ้ามีแฟนเลย ซึ่งทางด้านคุณแม่ก็งงเหมือนกัน ไม่รู้ว่าพี่ฟ้าไปท้องกับใครเพราะไม่ได้ไถ่ถามอะไรมากกว่านี้ และพี่ฟ้าบอกกับคุณแม่ว่าจะกลับมาอยู่บ้าน แม่ก็โอเครไม่ได้ซีเรียสอะไร เพราะพี่ฟ้ามาถึงบ้านก็คงจะเล่าให้ฟังเอง
วันเวลาก็ได้ผ่านไป 10 วัน พี่ฟ้าก็เดินทางกลับมาอยู่ที่บ้าน พี่ฟ้าได้มาคุยกับคุณแม่และคุณเนตร จนทราบว่าพี่ฟ้าได้ท้องกับผู้ชายคนหนึ่ง และผู้ชายคนนั้นไม่ยอมรับว่าตนเป็นพ่อของเด็กในท้อง คำพูดนั้นให้พี่ฟ้าเสียใจมาก พี่ฟ้าจึงตัดสินใจลาออกจากงานและกลับมาอยู่บ้าน
ด้วยความสงสัยและเริ่มรู้สึกโกรธ คุณเนตรจึงถามพี่ฟ้าว่า
“เฮ้ย!! เดี๋ยวก่อนนะ ไอ้ที่ไม่ยอมรับเนี่ยหมายความว่ายังไง”
พี่ฟ้าจึงเล่าให้ฟังว่า ผู้ชายคนนี้คือผู้ชายคนแรกของตน พี่ฟ้ากับเขาคบกันได้สักพัก จึงย้ายมาอยู่ด้วยกัน จนกระทั่งพี่ฟ้าตั้งท้อง พี่ฟ้าเลยบอกผู้ชายคนนั้น แต่ผู้ชายกลับบอกว่า
” เธอไปนอนกับใครมาหรือเปล่า ลูกในท้องอาจจะไม่ใช่ลูกของฉันก็ได้ “
พี่ฟ้าที่ได้ยินดังนั้นด้วยความเสียใจ บวกกับความคับแค้นใจเป็นอย่างมาก ทำได้เพียงเก็บเรื่องนี้ไว้คนเดียว และตัดสินใจลาออกจากงานกลับมาอยู่บ้านในที่สุด
จนกระทั่งหลายวันผ่านไป วันนั้นคุณเนตรจำได้ว่าเป็นวันศุกร์ จู่ๆมีผู้ชายรูปร่างหน้าตาดีมากมาที่บ้าน คุณเนตรก็งงว่าผู้ชายคนนี้เป็นใคร แต่พอลองจับใจความที่คุยกับพี่ฟ้า ก็ทำให้รู้ว่า ผู้ชายคนนี้คือพ่อของเด็กในท้องของพี่ฟ้า คุณเนตรก็โอเครไม่ติดขัดอะไรและหลานจะมีพ่อ
จึงไม่ได้สนใจอะไรต่อ
ผู้ชายคนนี้มานอนอยู่กับที่บ้านได้ 3 วัน หลังจากนั่นเขาก็ขอพี่ฟ้าแต่งงานในทันที ทั้ง2ก็อยู่กินกันมาตามปกติ แต่ผู้ชายคนนี้จะมาหาพี่ฟ้าเฉพาะวันศุกร์ – อาทิตย์ พอเช้าวันจันทร์เขาก็จะขับรถกลับไปทำงานที่ศรีราชา ส่วนตัวพี่ฟ้าที่ไม่ได้ทำงานก็อยู่บ้านเพราะกำลังท้องอยู่ด้วย
แต่ในช่วงที่ผู้ชายคนนี้กลับมาอยู่ที่บ้าน คุณแม่ของคุณเนตรและพี่ฟ้าก็รู้สึกไม่พอใจผู้ชายคนนี้ ซึ่งก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ว่าไม่พอใจเนี่ย ไม่พอใจเรื่องอะไร เพราะอะไร คุณแม่ก็เลยย้ายออกไปอยู่บ้านญาติแทน จึงเหลือแค่ 2 คนพี่น้องที่อยู่บ้าน และพี่เขยที่จะมาอยู่กับพี่ฟ้าในทุก ๆ วันศุกร์-อาทิตย์
จนกระทั่งอยู่ไปอยู่มา มีอยู่มาวันหนึ่ง เริ่มที่จะพบค่ำแล้ว คุณเนตรได้ยินเสียงหัวเราะดังลั่นของพี่เขย ต้องบอกก่อนว่าตั้งแต่พี่เขยมาอยู่ที่บ้าน คุณเนตรไม่เคยได้ยินเสียงหัวเราะจากพี่เขยแบบนี้มาก่อนเลย จนตั้งแต่พี่ฟ้ากับพี่เขยมาอยู่ ที่บ้านก็เริ่มดูแปลกไป และบางคืนตกดึกก็ได้ยินเสียงเหมือนคนเอาอะไรมาขูดข้างฝาบ้านรอบบ้านบ้าง และบางคืนก็ได้ยินเสียงบานเกล็ดหน้าต่างดังแก๊กๆ แต่คุณเนตรก็ยังไม่ได้คิดอะไร
จนกระทั้งวันหนึ่ง ขณะที่คุณเนตรนอนอยู่ ก็ได้ยินเสียงหัวเราะดังมาจากในครัว เสียงหัวเราะนั้นเหมือนเสียงหัวเราะมีความสุข คุณเนตรก็จึงจะไปแอบดูหน่อยว่าใครกันที่หัวเราะกลางดึกขนาดนี้
คุณเนตรจึงค่อย ๆ เดินย่องไปที่ห้องครัว ค่อยๆมอง และภาพที่เห็นคือ พี่เขยกำลังนั่งกินข้าวอยู่ แล้วมีร่างๆหนึ่ง รูปร่างเป็นผู้หญิงผมยาวถึงพื้น นั่งอยู่ในท่ายอง ๆ ไม่ใส่เสื้อผ้า และกำลังหยิบอาหารในจานของพี่เขยกิน
คุณเนตรก็ตกใจร้องแบบลืมตัว
” เฮ้ย!! อะไรว่ะ! “
ด้วยความตกใจคุณเนตรรีบเอามือปิดปากตัวเองทันที แต่ผู้หญิงคนนั้นเหมือนรู้ว่าคุณเนตรเห็นมันเข้าแล้ว มันจึงค่อยๆหันหน้ามามองคุณเนตร คุณเนตรจึงหลับตาลงซักพัก แล้วลืมตาขึ้นดูอีกที ปรากฏให้เห็นว่าร่างๆนั้นคือพี่ฟ้า!
คุณเนตรจึงคิดว่าตนน่าจะตาฝาดไป จึงเก็บเรื่องนี้เอาไว้คนเดียวไม่พูดอะไร
จนอยู่มาได้สักระยะหนึ่ง คุณเนตรก็สังเกตว่าพี่ฟ้าดูเครียดๆ สีหน้าเหมือนคนไม่สบายใจอะไรซักอย่าง คุณเนตรก็เลยถามพี่ฟ้าว่า..
” พี่เป็นอะไรหรือเปล่า ทะเลาะกับพี่เขยหรอ “
คุณเนตรถามด้วยความเป็นห่วง
” ป..เปล่า ไม่ได้ทะเลาะอะไรกัน “
พี่ฟ้าตอบ
” อ้าว แล้วพี่เป็นอะไรทำไมทำหน้าเครียดตลอดเวลา “
คุณเนตรรีบถามด้วยความสงสัยและพี่ฟ้าจึงบอกว่าตนไม่สบายใจ และมีเรื่องจะสารภาพให้คุณเนตรฟัง ซึ่งช่วงนั้นเป็นช่วงที่พี่เขยไปทำงานอยู่
และพี่ฟ้าเริ่มเล่าให้ว่า
” รู้ไหมว่าทำไมผู้ชายคนนี้ถึงกลับมาหาพี่ “
คุณเนตรที่ได้ยินแบบนั้นก็งงกับในคำพูดของพี่สาวจึงตอบไปว่า
” ทำไมหรอ “
พี่ฟ้าจึงบอกว่าตนไปทำเสน่ห์ยาแฝดมา เพื่อที่จะให้ผู้ชายคนนี้กลับมาอยู่กับเขา เพราะความแค้นที่โดนดูถูกในตอนนั้น คุณเนตรที่ฟังก็ตกใจเล็กน้อยก่อนจะถามพี่ฟ้ากลับไปว่า
” อ้าว ในเมื่อเขาก็กลับมาแล้ว แล้วพี่เครียดเรื่องอะไรอีก “
พี่ฟ้าจึงบอก ที่ตนเครียดก็คือ หลังจากที่สามีกลับมาหา และมาอยู่ที่บ้านหลังนี้ ตอนที่นอนอยู่ด้วยกันบนเตียงกับสามี ตนมักจะได้ยินสามีร้องออกมาเหมือนมีความสุข เสียงเหมือนคนกำลังโล้สำเภากัน(ขอใช้คำนี้แทนเด้อพี่น้อง^^) พี่ฟ้าจึงค่อย ๆ หรี่ตามองดูสามีว่าเป็นอะไร แล้วสิ่งที่พี่เห็นก็คือ ผู้หญิงร่างดำๆ ผมยาวมากๆ ไม่ใส่เสื้อผ้า ตาสีขาวไม่มีนัยตาดำ นั่งอยู่บนร่างของสามีพี่ และกำลังโล้สำเภากับสามีอยู่
พอเห็นแบบนั้นพี่ฟ้าก็ตกใจสุดขีด แล้วผู้หญิงร่างนั้นก็หันมามองพี่ฟ้า และเอื้อมมือมาปิดปากพี่ฟ้า เพื่อไม่ให้ส่งเสียงร้อง จนพี่ฟ้าหมดสติไปในที่สุด
จนพี่ฟ้าตื่นขึ้นมาอีกทีเป็นเช้าวันจันทร์ สามีพี่ฟ้าต้องกลับไปทำงาน และคิดทบทวนว่าเรื่องเมื่อคืนมันคืออะไรแค่ฝันไปรึเปล่า จึงเก็บเงียบเรื่องนี้ไว้คนเดียว
จนผ่านไปอีกอาทิตย์หนึ่ง เหตุการณ์เดิมก็เกิดขึ้นอีกครั้ง แต่คราวนี้พี่ฟ้าลืมตาตื่นมา พบว่าสามีหายไปจากเตียง แต่พี่ยังคงได้ยินเสียงร้องอยู่ภายในห้องนอน พี่ฟ้าจึงลุกและพยายามมองไปทางต้นตอของเสียง ก็ปรากฏว่าพี่เห็นสามีลงไปนอนอยู่ที่พื้นข้างเตียงและมีผู้หญิงในคืนนั้น เปลือยกายทั้งตัว กำลังนั่งคร่อมสามีพี่ฟ้าอยู่
พี่ฟ้าเห็นดังนั้นก็เลยส่งเสียงร้องกรี๊ดออกมา แต่มันเหมือนไม่มีใครได้ยินเสียงของพี่ฟ้าเลย ทันใดนั้นผู้หญิงคนนั้นก็ยืดมือมาบีบคอพี่ฟ้า จนพี่ฟ้าหมดสติไป…
จนเช้าเป็นเช้าพอดีกับวันจันทร์สามีพี่ฟ้าก็ขับรถกลับไปทำงานที่ตามปกติ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่พี่ฟ้าด้วยความเครียดทนไม่ไหวจึงได้เล่าให้กับคุณเนตรฟัง พอเล่าจบคุณเนตรเลยถามพี่ฟ้ากลับไปว่า
“แล้วที่พี่ไปทำเสน่ห์ อาจารย์เค้าให้อะไรพี่มาบ้าง”
พี่ฟ้าก็เลยบอกว่า ให้รูปปั้นดินคล้ายคนสองคนคู่กันที่มีพันด้ายสายสิญจน์ ผ้ายันต์ เศษเส้นผม เศษเสื้อผ้าของพี่เขย และนำทั้งหมดห่อด้วยผ้าขาวฝืนนึง
คุณเนตรก็เลยถามว่า แล้วพี่ฟ้าเก็บห่อผ้านี้เก็บไว้ที่ไหน พี่ฟ้าก็จึงพาคุณเนตรเดินไปที่ด้านหลังบ้าน และก็พากันขุด ปรากฏว่าพี่ฟ้าได้นำของเหล่านี้มาฝังไว้ที่ด้านหลังบ้าน และด้วยความไม่รู้ หรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ทั้ง2จึงนำห่อผ้านี้ไปยังวัดที่มีพระอาจารย์ที่นับถือ
พอไปถึงพี่ฟ้าก็ได้เล่าเหตุการณ์ทุกอย่างให้พระท่านฟัง เมื่อพระท่านฟังจบ ท่านก็ไม่รู้ว่าจะแนะนำอย่างไรดี เพราะท่านไม่ได้เป็นสายนี้ ท่านก็เลยตัดสินใจทำพิธีคล้ายกับจัดงานศพ สวดบังสกุล ทอดผ้าบังสกุล แล้วก็นำของพวกนี้ไปเผาทั้งหุ่นปั้น ผ้ายันต์ เส้นผมพี่เขย และต่างไปเผาที่เมรุเผาศพ..
หลังจากเผาทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย พี่ฟ้าและเนตรนำเข้าขี้เถ้าขี้ผง ไปลอยน้ำในแม่น้ำ เหมือนลอยอังคาร
หลังจากทำทุกอย่างเสร็จสิ้นทั้งสองก็กลับมาที่บ้าน แล้วก็มีเสียงเรียกเข้าจากโทรศัพพี่ฟ้า เป็นสายของเพื่อนสาวมี จึงกดรับโทรศัพท์และเพื่อนของสามี ก็บอกว่าสามีพี่ฟ้าประสบอุบัติเหตุ เสียชีวิตคาที่ พี่ฟ้าที่ได้ยินก็ช็อค เสียสติกรีดร้องออกมาไม่หยุด
พี่ฟ้าจึงฉุกคิดมาได้ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะเป็นเพราะตนเองนำห่อผ้าและของเหล่านั้นไปทำพิธีหรือเปล่า จึงทำให้วิญญาณผีพรายเสน่ห์ตนนั้น มาเอาชีวิตของแฟนไปหรือเปล่า
พี่ฟ้าช็อคกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจนเหมือนคนเสียสติ คุณเนตรก็เลยส่งข่าวไปหาแม่ให้แม่รู้ และเล่าทุกอย่างและบอกอาการของพี่ฟ้าในขณะนี้ แะตัวคุณเนตรเองก็ต้องออกไปทำงาน จึงไม่มีคนดูแลพี่ฟ้า แม่ก็เลยต้องกลับมาอยู่ดูแลพี่ฟ้าที่บ้าน
จนคืนดึกคืนหนึ่ง ผ่านไปได้ประมาณ 7 วัน หลังจากเสร็จสิ้นงานศพของสามีที่ศรีราขาเรียบร้อยแล้ว พี่ฟ้าก็กลับมาที่บ้าน คุณเนตรเป็นห่วงพี่ฟ้า จึงไม่อยากให้พี่ฟ้านอนคนเดียว เลยตัดสินใจไปนอนเป็นเพื่อนกับพี่ฟ้าที่ห้อง
โดยพี่ฟ้าจะนอนอยู่บนเตียง ส่วนคุณเนตรนอนที่พื้นข้างๆ ซึ่งตรงปลายเท้าจะมีตู้เสื้อผ้าที่จะมีกระจกบานใหญ่สำหรับส่องทั้งตัวติดอยู่
ระหว่างที่คุณเนตรกำลังนอนหลับอยู่ กลางดึก คุณเนตรได้ยินเสียงพี่ฟ้า ร้องโวยวายขึ้นมาจับใจความได้ว่า
” ปล่อย! ปล่อย!! “
จึงพยายามจะลุกขึ้นมาดูพี่ฟ้าที่นอนอยู่บนเตียง แต่!! คุณเนตรกลับขยับตัวไม่ได้…
ทันใดนั้นพี่ฟ้าก็ตะโกนขึ้นมาว่า
“ช่วยด้วย! ช่วยด้วย!! ช่วยฉันด้วย!!!”
คุณเนตรกลัวว่าพี่ฟ้าจะเป็นอะไร จึงใช้เรี่ยวแรงที่มีทั้งหมดพยายามพยุงตัวเองขึ้นมา แต่ก็หาเป็นผลไม่ คุณเนตรจึงพูดในใจว่า
” พ่อจ๋าแม่จ๋าช่วยด้วย “
หลังจากที่นึกถึงพ่อแม่ จู่ๆคุณเนตรก็หบุดตากผวังรู้สึกมีแรงขึ้นมา จึงรีบพยายามพยุงตัวขึ้นนั่ง สายตาของคุณเนตรได้มองไปที่กระจกปลายเท้า คุณเนตรเห็นเงาสะท้อนในกระจก เป็นร่างผู้หญิงเปลือย ผมยาว ตัวดำปี๋ คุณเนตรมั้นใจว่าเป็นร่างเดียวกับที่เห็นในห้องครัววันนั้นอย่างแน่นอน โดยร่างนั้นได้ยืดเอามือข้างหนึ่งกดล็อคตัวคุณเนตรเอาไว้ เพื่อที่จะไม่ให้คุณเนตรลุกไปช่วยพี่ฟ้าได้
คุณเนตรขยับได้แต่คอ จึงพยายามหันหน้าไปมองพี่ฟ้าที่นอนอยู่บนเตียง และก็เห็นผีตนนั้นจับมือพี่ฟ้าให้ทุบท้องของตนเองตัวเอง พร้อมกับร้องด้วยความเจ็บปวด
” ช่วยด้วย!! ฉันไม่อยากทำ!! ช่วยฉันด้วย ฉันเจ็บ!!!!!! “
ผีตนนั้นจับมือของพี่ฟ้า ทุบไปที่ท้อง! ทุบแล้วทุบอีก จนเลือดของพี่ฟ้าไหลออกมาเต็มไปหมดและพี่ฟ้ากับคุณเนตรก็ช็อคหมดสติไปในที่สุด…
ตอนเช้าคุณเนตรที่ได้สติเห็นพี่ฟ้าหลับบนกองเลือดจึงรีบนำตัวพี่ฟ้าไปส่งโรงพยาบาล จนไปถึงโรงพยาบาลแต่….มันก็ไม่ทันเสียแล้วเด็กในครรภ์ไม่รอด พี่ฟ้าได้แท้งลูก
ทุกคนในบ้านตกอยู่ในสถานการตึงเครียดกันหมด เมื่อพี่ฟ้าเป็นแบบนี้ จึงทำให้คุณแม่พี่ฟ้าต้องคอยดูแลพี่ฟ้าที่บ้านอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา
เพราะพี่ฟ้าตอนนี้กลายเป็นคนเสียสติ พี่ฟ้าจะชอบร้องไห้และบอกว่า
“แม่จ๋า มันมาเอาลูกหนูไปแล้ว “
นอกเหนือจากนี้แล้วพี่ฟ้ายังชอบ จิกตัวเองจนเนื้อหลุด แล้วเอาเนื้อที่หลุดออกมาใส่ปากกิน บ้างครั้งก็ทุบท้อง จิกท้อง แต่ที่หนักยิ่งกว่านั้นคือ พี่ฟ้าพยายามที่จะทำลายอวัยวะเพศตัวเอง โดยลักษณะเหมือนการทำแท้ง
ทุกวันนี้คุณเนตรบอกว่ายังรักษาพี่ฟ้าไปตามอาการ แต่มันก็ไม่ได้มีอะไรดีขึ้น
ทุกวันนี้ลำบากมาก คุณเนตรต้องดูแลทั้งคุณแม่และพี่ฟ้าที่ปัจจุบันได้กลายเป็นคนเสียสติไปเป็แล้ว…และนี่คือเรื่องราวทั้งหมด
ก็ทางนิลขอเสริมนิดนึงนะครับ ผมคิดว่าเรื่องนี้อยากให้น้องๆวัยรุ่นที่กำลังเข้าสู่ช่วงความรักได้อ่านกันนะครับ อยากให้ทำอะไรคิดให้ดีๆเพราะว่ามันแรกบังคับชีวิตของคนๆหนึ่งซึ่งณตอนนี้มีข่าวดัง อย่างเด็ก14วางแผ่นฆ่าแม่ตนเอง เพราะเรื่องความรัก ซึ่งเป็นอะไรที่น่าหดหู่มากในสังคมขอให้ทุกท่านทำอะไรยังคิดยังทำก่อนนะครับ