วันศุกร์, 29 กันยายน 2566

อาโอกิกาฮาระ ป่าฆ่าตัวตายแห่งภูเขาไฟฟูจิ ญี่ปุ่น

ภูเขาไฟฟูจิ ภูเขาสูงที่เป็นเหมือนสัญลักษณ์ที่ชาวญี่ปุ่นภาคภูมิใจทุกครั้ง เวลาที่นักเดินทางทุกคนล้วนตั้งเป้าหมายว่าจะต้องไปชมด้วยตาตัวเองซักครั้งในชีวิต แต่ที่เที่ยวยอดนิยมนี้เองกลับมีสิ่งหนึ่งที่ชาวญี่ปุ่นไม่ค่อยอยากจะเล่าให้คนอื่นฟังสักเท่าไหร่นัก นั่นก็คือ เรื่องราวของผืนป่า นามว่า อาโอกิกาฮาระ ป่าหนาทึบเขียวครึ้มที่ปกคลุมอยู่ก่อนทางขึ้นฟูจิซัง ที่เคยเป็นหนึ่งในสถานที่ที่คนนิยมมาจบชีวิตกันมากที่สุดของประเทศญี่ปุ่น ราวกับว่าที่นี่มีอาถรรพ์ที่ทำให้คนที่กำลังหมดอาลัยตายอยากพร้อมใจกันมาที่นี่กัน โดยไม่คิดจะหันหลังกลับสู่โลกภายนอกอีก

ป่าอาโอกิกาฮาระ เป็นผืนป่าที่มีพื้นที่ราว 35 ตารางกิโลเมตร (ญี่ปุ่น: 青木ヶ原 โรมาจิ: Aokigahara) หรือมีอีกชื่อเรียกหนึ่งว่า นทีแห่งไม้ (樹海, Sea of Trees) เป็นชื่อเรียกป่าบริเวณเชิงภูเขาฟูจิด้านตะวันตกเฉียงเหนือ เป็นที่เลื่องลือในฐานะสถานที่ฆ่าตัวตายอันดับ 2 ของโลก รองจากสะพานโกลเด้นเกต (Golden Gate Bridge)แห่งซานฟรานซิสโก ประเทศสหรัฐอเมริกา

     ภายในป่าแห่งนี้แม้ในช่วงกิโลแรกๆ ไม่ไกลจากถนนนักจะยังดูเป็นป่าโปร่ง ร่มรื่นสบายตา แต่ถ้าหากเดินลึกเข้าไปเรื่อยๆ ในทางที่มุ่งหน้าไปภูเขาไฟฟูจิแล้ว จะเริ่มพบกับป่าที่ดูดึกดำบรรพ์ รกทึบขึ้นเรื่อยๆ จนแทบไม่เจอสิ่งมีชีวิตอื่นใดเลย พื้นที่ของป่าอาโอกิกาฮาระนั้นเป็นแผ่นหินภูเขาไฟที่เกิดจากการเย็นตัวของลาวาที่ปะทุจากภูเขาไฟฟูจิเมื่อปีพ.ศ. 1407 (ค.ศ. 864) ประมาณเกือบ 1200 ปีที่แล้ว

ในทุกๆ ปี เจ้าหน้าที่จะพบศพของผู้เสียชีวิต ทั้งที่สามารถระบุตัว และไม่สามารถระบุตัวได้ปีละไม่ต่ำกว่า 30 ร่าง จากข้อมูลพบว่า ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1950 พบร่างถึง 500 ร่าง แต่หลังจากปี 2010 เป็นต้นมา ทางการก็หยุดการเผยแพร่สถิติดังกล่าว เพราะหวังว่าจะช่วยลดการเชื่อมโยงป่ากับการฆ่าตัวตายลงได้บ้าง พร้อมกับติดตั้งป้ายทั้งภาษาญี่ปุ่น และภาษาอังกฤษบริเวณปากทางเข้าป่า เพื่อย้ำเตือนผู้มาเยือนว่าอย่าคิดสั้น รวมถึงการติดตั้งแถบสัญลักษณ์ตามต้นไม้เพื่อแสดงเส้นทางออกจากป่าสำหรับคนที่เปลี่ยนใจ การฝึกอบรมอาสาสมัครให้มีทักษะพูดคุยกับคนที่คิดฆ่าตัวตาย การเพิ่มตำรวจลาดตระเวนป่า และการแปะป้ายบอกเบอร์โทรศัพท์หน่วยงานที่รับให้คำปรึกษาปัญหาชีวิตโดยเฉพาะ

     อาสาสมัครที่คอยเดินตรวจตราในป่า เมื่อพบร่างผู้เสียชีวิตก็จะแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาเก็บศพต่อไป แต่ถ้าเจอคนที่กำลังจะฆ่าตัวตาย หรือยังไม่เสียชีวิต อาสาสมัครก็จะรับทำการช่วยเหลือในทันที