จิตเป็นคนในจังหวัดสงขลา เขาเป็นคนชอบเที่ยวต่างจังหวัดมาก มีงานเทศกาลจัดที่ที่ไหนจะใกล้หรือไกลจิตแทบไม่เคยพลาด เรียกได้ว่าเป็นคนสายเที่ยวก็ว่าได้ จนกระทั้งใกล้ปีใหม่ นิตและเพื่อนๆอีก 3 คนนัดกันไปลงใต้เคาท์ดาวน์ที่นราธิวาสกัน ทุกคนจีงตอบตกลงแล้วออกเปิดทางพรุ่งนี้…รุ้งเช้าทุกคนพร้อมออกเดินทางกัน โดยนิตได้ขอยืมรถแม่เพื่อนออกไปเที่ยวกับเพื่อนและได้บอกแม่ว่า ค่ำๆถึงบ้านแน่นอน ช่วยความรักลูกและนิตเป็นเด็กเรียนดีมาตลอด จึงตามใจลูกสาวตัวเองไป โดยไม่ได้คิดเลยว่า จะเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้น… ตกเย็น นิตและเพื่อนๆเดินทางมาถึงนราธิวาส ยังทันที่จะแวะดูทะเลหมอกและพระอาทิตย์ตกดิน ก่อนที่จะแวะสถานทีเที่ยวต่างๆแล้วจึงทางเดินกลับบ้านกัน ทุกคนสนุกมากถือได้ว่าเป็นการมาเที่ยวระยะสั้นที่สนุกที่สุดก็ว่าได้ ระหว่างขับรถกลับบ้านเวลาได้ประมาณ 5 ทุ่ม รถของพวกเขาใกล้น้ำมันหมดเต็มที ทุกคนเลยพยายามมองหาปั้ม แต่โชคร้ายที่บริเวณนั้นแทบจะไม่มีปั้มน้ำมันอยู่เลย เนื่องจากเป็นทางตีนเขา นิตจึงเปิด google Map เพื่อดูปั้มน้ำมันที่ใกล้ที่สุด ก่อนตัดสินใจขับไปในทางที่ไม่คุ้นเคย เพื่อหวังว่าจะไปถึงก่อนที่น้ำมันจะหมด
ในระหว่างที่ขับรถไป เส้นทางเริ่มเปลี่ยวไปเรื่อยๆ สองข้างทางเต็มไปด้วยป่า นานๆทีจะมีรถขับสวนผ่านมา เมื่อขับไปสักพักนิตเห็นเหมือนมีอะไรตัดหน้ารถ จึงเบรคกระทันหัน
เพื่อน : ” มีอะไรว่ะ แก ? “
นิต : ” ฉันเห็นเหมือนมีอะไรวิ่งตัดหน้ารถเลย แก ” (เสียงสั้นๆ)
เพื่อน : ” จะมีอะไรในทางเปลี่ยวขนาดนี้ ขับไปเหอะแก ฉันกลัว !!! “
นิตจึงรีบออกรถไป โดยไม่รู้เลยว่าขณะที่จอดอยู่นั้น มีบางอย่างติดรถมากับพวกขาด้วย…
เมื่อไปถึงปั้มน้ำมัน ทุกคนแยกย้ายเข้าห้องน้ำ ทิ้งนิตอยู่ที่รถเพื่อรอเด็กปั่มเติมน้ำมันเสร็จ ทันใดนั้น นิตรู้สึกเหมือนมีใครนั่งอยู่ในรถกับเขาด้วย เสียงหายใจดังขึ้นมาจากเบาะหลังรถ เมื่อนิตหันไปมองกลับไม่เจอสิ่งใดเลย นิตเริ่มใจไม่ดีแล้ว สักพักเพื่อนๆของนิตก็เดินกลับมาขึ้นรถและขับออกไปจากปั้มทันทีระหว่างทางนิตและเพื่อนพูดคุยกันสนุกสนาน จนกระทั้งได้ยินเสียงพูดแทรกออกมาว่า ” ไปส่งกูหน่อย !!! ” ทุกคนเงียบและมองหน้ากัน ก่อนที่นิตจะถามว่าเพื่อนๆว่า ใครเป็นคนพูดออกมา เพื่อนของนิตปฏิเสธและหัวเราะกัน ทุกคนเข้่ใจกันว่า ต้องมีใครในกลุ่มเพื่อนพูดแกล้งกันอย่างแน่นอน ทันใดนั้น คำพูดเดิมพร้อมกับเสียงที่หนักแน่นดังขึ้นอีกครั้ง ” ไปส่งกูหน่อย กูจะกลับบ้าน !!! ” คนทุกรู้ทันทีเลยว่า นั้นไม่ใช้เสียงของเพื่อนในกลุ่มแน่นอน เนื่องจากเสียงที่ได้ยินมานั้นเป็นเสียงใหญ่เหมือนกับเป็นเสียงผู้ชายมากกว่า
เพื่อน : ” แก เสียงใครพูดเมื่อกี้นี้อ่ะ ” (เพื่อนๆถามนิต ด้วยเสียงสั่นกลัว)
นิต : ” ฉันไม่รู้ ในรถก็มีแน่พวกเรานี้หน่า “
เสียงปริศนา : ” เสียงกูเอง !!! ไปส่งกูหน่อย กูจะกลับบ้าน “
เสียงนั้นดังมาจากเบาะหลัง เมื่อเพื่อนๆนิตล้มลงไปดูที่ขา พวกเขาแทบช็อคภาพที่เห็นคือ หัวของผุ้ชาย นอนกลิ้งอยู่ระหว่างที่ตั้งขา พร้อมกับใบหน้าที่เหวอะหวะ มีสมองไหลออกมาจากศีรษะของเขาด้วย เพื่อนๆนิตตกใจอย่างมากรวมถึงนิตด้วย เมื่อนิตพยายามจะเบรครถและหนีออกไป กลับมีมือจากด้านหลังของเขามาจับพวงมาลัยไว้อยู่ พร้อมกับเสียงตะโกนว่า ” ถ้าไม่ไปส่งกู กูขับไปตายด้วยกันนั้นแหละ 5555 ” เมื่อพูดจบประโยครถของนิตก็พุ้งชนกับรถบรรทุกอย่างจัง ก่อนที่ชาวบ้านในละแวกนั้นจะโทรแจ้งตำรวจ สภาพรถเสียหายยับเยิน เพื่อนๆและนิตตายคาทีในที่เกิดเหตุ ตำรวจถึงติดต่อพ่อแม่ของพวกเขาก่อนที่พวกท่านจะนำศพและทำพีธีต่อไป…
หลังจากนั้นไม่นาน ชาวบ้านก็ได้เล่าว่า ก่อนหน้านั้นมีเด็กวัยรุ่นขับรถจักรยานยนต์ด้วยความเร็วบนเส้นทางนั้น เกิดพลาดเสียหลักร่างของเด็กหนุ่มคนนั้นไปกระแทกกับฟุตบาทจนหัวของเขาหลุดกระเด็นไปไกล ไม่นานเรื่องสยองก็เกิดขึ้นบนเส้นทางนั้น ชาวบ้านในละแวกนี้จึงไม่ค่อยมีใครกล้าผ่านถนนเส้นนั้นอีกเลย…